วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วิธีการสังเกตปลาป่วย การรักษา

วิธีการสังเกตปลาป่วย
1.   ปลามีอาการเซื่องซึมผิดปกติ
2.   ปลาไม่ค่อยกินอาหาร
3.   มีบาดแผลตามตัว
4.   ปลาว่ายน้ำถูตัวกับพื้นตู้หรือวัสดุต่างๆ
5.   ปลาว่ายน้ำสั่นกระตุกและว่ายเร็วผิดปกติ
6.   ปลาขับเมือกออกมามากผิดปกติ
7.   ปลาว่ายน้ำหมุนควง ทรงตัวไม่อยู่  ครีบหรือหางขาดแหว่ง
8.   ตามลำตัวมีสิ่งแปลกปลอมเกาะ
9.   เหงือกของปลากางออกมาก เหงือกเปิดหรือบวมแดง
10.   เกล็ดตั้งชันผิดปกติ
11.   ตามีลักษณะเป็นผ้าขาวหรือเป็นจุดขาว
12.   มีเนื้อเยื่อหรือตุ่มเนื้อนูนขึ้นมาตามลำตัว

การสังเกตอาการป่วยของปลา
        การเคลื่อนไหว
        การเปลี่ยนแปลงสีของลำตัว 
        การเกิดเมือก
        การหายใจ
        การผิดปกติของอวัยวะต่างๆ
        การกินอาหาร
        การเจริญเติบโต

ปัจจัยสาเหตุของการเกิดโรคพยาธิ                

1. จากสภาพแวดล้อม
        1.1   คุณภาพน้ำ 
        1.2   อุณหภูมิ 
2. การเคลื่อนย้ายปลา                         
        2.1   การล้างตู้
        2.2    การนำปลาใหม่เข้ามาเลี้ยง
3.   วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
        
วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ป้องกัน
         –   เกลือแกง 30-40 ppt.
         –   ด่างทับทิม 20 ppm. 
         –   คลอรีน 30 ppm. 
         –   อาหารที่มีชีวิต (น้ำเกลือ 20 ppt. 30-60 วินาที 2 ครั้ง

โรคพยาธิที่พบมากในการเลี้ยงปลา
โรคจุดขาว (White spot disease)





          โรคจุดขาวสาเหตุ เกิดจากโปรโตซัว (Ichthyopthirius multifilis)
          ลักษณะ เซลล์รูปไข่หรือเกือบกลม มีขนาดใหญ่ 0.5-1.0 มม. มีขน (cilia) รอบตัว 
                               มีนิวเคลียสรูปเกือกม้า มักเรียกว่า ich 
          การแพร่ระบาด ตัวอ่อนว่ายน้ำเข้าเกาะตัวปลาและฝังตัวอยู่ใต้ผิวหนัง ปล่อยสารเพื่อย่อยเนื้อเยื่อปลาเพื่อกินเป็นอาหาร 
                    เมื่อเจริญเป็นตัวเต็มวัยจะว่ายน้ำออกจากตัวปลาไปเกาะกับวัสดุหรือจมลงสู่พื้นตู้ แล้วสร้างเกราะหุ้มตัว 
                    ภายในมีการแบ่งเซลล์ 500-2,000 เซลล์ ตัวอ่อนเจาะผนังออกมาว่ายน้ำเป็นอิสระเพื่อไปเกาะปลาต่อไป 
                    วงจรชีวิตใช้ระยะเวลา 12-16 วัน
          ชนิดปลาที่เกิดโรคจุดขาว ได้แก่ ปลาทอง ปลากัด ปลาหางนกยูง ปลานีออน ปลาสอด ปลาแซลฟิน 
                                                              ปลาทรงเครื่อง ปลาหางไหม้ ปลาแรด ปลาเสือตอ ฯลฯ
       การรักษา
–   ฟอร์มาลดีไฮด์เข้มข้น 10 ppm. ใส่ติดต่อกัน 5-7 วัน
–   เกลือแกงเข้มข้น 5 ppt.ใส่เวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำประมาณ 5-7 วัน
–   มาลาไคท์กรีนเข้มข้น 1.0 ppm. ใส่ติดต่อกัน 3-5 วัน
–   เมทิลินบลูเข้มข้น 1.0-2.0 ppm. ใส่ติดต่อกัน 3-5 วัน

โรคจุดเหลือง, โรคสนิม


         สาเหตุ เกิดจากโปรโตซัว (Oodinium spp.)
         ลักษณะ เซลล์รูปร่างกลมหรือแบนรูปไข่ มีขนาดประมาณ 0.10-0.15 มม. มีอวัยวะคล้ายแส้ 2 เส้น
                              เพื่อใช้เกาะตัวปลา มีอวัยวะคล้ายปากยืดหดได้เรียกว่า Cytoplasmic process มีนิวเคลียสขนาดใหญ่ 1 อัน
                              ภายในเซลล์มีเม็ดสีน้ำตาลปนเหลืองเล็กๆ จำนวนมาก
การแพร่ระบาด ตัวอ่อนว่านน้ำเกาะตัวปลาตามเหงือกและลำตัว ทำให้มีสีเหลืองแกมน้ำตาลหรือเป็นหมอกสีขาว
                    ตัวเต็มวัยว่ายน้ำหลุดออกจากตัวปลาแล้วแบ่งตัวออกเป็น 2 เซลล์ ก่อนจะแยกกันมีการสร้างเกราะหุ้มเซลล์ไว้ 
                     แล้วแต่ละเซลล์จะแบ่งตัวได้ตัวอ่อนเซลล์ละ 128 ตัว จากนั้นจะเจาะเกราะละทุออกมาหาปลาเกาะอีกครั้ง
ชนิดปลาที่เกิดโรค ปลาทรงเครื่อง,ปลากาแดง, ปลาทอง (ลักเล่ห์)
        การรักษา
             ฟอร์มาดีไฮด์ 10 ppm. ใส่ติดต่อกัน 5-7 วัน
             เกลือแกง 5 ppt. 

เห็บระฆัง


             สาเหตุ เกิดจากโปรโตซัว (Trichodina sp.)
            ลักษณะ เซลล์รูปร่างคล้ายระฆังหรือถ้วยคว่ำ มีขนาดเล็กมากประมาณ  40-70 ไมโครเมตร
                                  ด้านล่างมีขนรอบตัวเรียงเป็นวง 2 แถว (ใช้ในการเคลื่อนที่) ส่วนล่างสุดเว้าเข้าไปด้านในและมีขอแบนๆ 
                                  ฃเรียงซ้อนกันสำหรับใช้เกาะติดกับตัวปลา
           การแพร่ระบาด  ทำให้เกิดแผลตามเส้นเหงือกมี 2 เพศในตัวเดียวกันเมื่อมีการผสมพันธุ์จึงได้ตัวอ่อน
                                          ตัวอ่อนที่ออกจากแม่ระยะแรกมีขนเต็มตัว ว่ายน้ำอิสระ ไปหาที่เกาะและจะเจริญเป็นตัวเต็มวัยต่อไป
              ชนิดปลาสวยงามที่เกิดโรค มักเกิดกับปลาที่เลี้ยงด้วยน้ำธรรมชาติ หรือเลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติ 
                                                          เช่นปลาดุก ปลาตองลาย ปลากด ปลาตะเพียน
              การรักษา
ฟอร์มาลดีไฮด์เข้มข้น 10 ppm. ใส่ติดต่อกัน 5-7 วัน 



พยาธิปลิงใส

        สาเหตุ เกิดจากหนอนตัวแบน (Gyrodactylus sp.)
        ลักษณะ รูปร่างคล้ายปลิง ลำตัวใส มองด้วยตาเปล่าเห็นได้ยาก ลำตัวแบน ยาว 1.0-5.0 มม.
                             ส่วนหัวแยกออกเป็น 2 หรือ 4 แฉก ส่วนท้ายลำตัวมี opisthaptor ใช้เกาะ ภายในมีตะขอขนาดใหญ่ 1 คู่ 
                             และรอบนอกมีหนามเล็กๆ จำนวน 16 อัน
       การแพร่ระบาด ปลิงใสมักเกาะตามเหงือกของปลาโดยใช้หนามและขอที่ท้ายลำตัวเกาะ
                                   จากนั้นใช้ปากดูดเลือดจากเหงือกของปลาทำให้เกิดแผลตามเส้นเหงือกมี 2 เพศในตัวเดียวกันเมื่อมีการผสมพันธุ์
                                   จึงได้ตัวอ่อน ตัวอ่อนที่ออกจากแม่ระยะแรกมีขนเต็มตัว ว่ายน้ำอิสระ ไปหาที่เกาะและจะเจริญเป็นตัวเต็มวัยต่อไป
ชนิดปลาสวยงามที่เกิดโรค มักเกิดกับปลาที่เลี้ยงด้วยน้ำธรรมชาติ หรือเลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติ 
                                  เช่นปลาดุก ปลาตองลาย ปลากด ปลาตะเพียน
       การรักษา
            ฟอร์มาลดีไฮด์เข้มข้น 10 ppm. ใส่ติดต่อกัน 5-7 วัน 

หนอนสมอ


             สาเหตุ เกิดจากครัสตาเซียน (Lernaea sp.)
             ลักษณะ ลำตัวทรงกระบอก ยาว 2-10 มม. ส่วนหัวแยกออกเป็นแฉกคล้ายสมอเรือ ใช้ฝังไปในตัวปลา
                                  ส่วนคออ่อนนุ่มเรียวเล็กจะต่อกับลำตัวซึ่งจะขยายใหญ่ทางด้านท้ายลำตัว มีระยางค์เล็ก 5 คู่ และมีถุงไข่ 1 คู่อยู่ส่วนท้ายลำตัว
             การแพร่ระบาด หนอนสมอเพศเมียเท่านั้นที่เป็น parasite ของปลา ตัวอ่อนเมื่อเข้าเกาะตัวปลาแล้วจะเปลี่ยนรูปร่าง
                                          ใช้ส่วนหัวเจาะเข้าไปในผิวหนังปลาแล้วเกาะกินเลือดปลาทำให้เกิดแผลช้ำแดง ขยายวงออก
                                          เมื่อโตเต็มที่ได้รับการผสมพันธุ์จากเพศผู้ ไข่ที่ได้รับการผสมจะเจริญอยู่ในถุงไข่ท้ายลำตัว 
                                           จากนั้นจะฟักออกเป็นตัว ว่ายน้ำอิสระและไปเกาะตัวปลาต่อไป
                  ชนิดปลาที่เกิดโรค มักพบในปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติเช่น ปลาทอง 
                                                    ปลาคาร์พ ปลาตองลาย ปลาสวาย ปลาหางนกยูง
            การรักษา
                    ฟอร์มาลดีไฮด์ เข้มข้น 10 ppm. ใส่ติดต่อกัน 5 - 7 วัน
                    ดิพเทอร์เร็กซ์ 0.5 ppm. ใส่ติดต่อกัน 3 - 5 วัน


เห็บปลา 

              สาเหตุ เกิดจากครัสตาเซียน (Argulus spp.)
              ลักษณะ ลำตัวกลมแบน ด้านหลังโค้งมน มีสีเขียวแกมเหลืองและค่อนข้างใส 
                                    ยาวประมาณ 5-10 มม. ลำตัวแบ่งเป็นปล้องๆ และเชื่อมติดกัน ปากเจริญดีเป็นท่อยาว มีเข็ม 
                                   (Preoral sting) ใช้แทงเข้าไปในเนื้อปลา มีตารวม 1 คู่ ใกล้ปากมี (Suction cup) ใช้สำหรับเกาะติด มีขาว่ายน้ำ 4 คู่
             การแพร่ระบาด เห็บปลาว่ายน้ำไปเกาะตัวปลาที่มีเกล็ด ใช้ Preoral sting แทงลงไปในกล้ามเนื้อปลา
                     และดูดกินน้ำเลี้ยงจากเซลล์ของปลา ปลาจะระคายเคือง พยายามว่ายน้ำเอาลำตัวถูกับตู้ หรือวัสดุ 
                     เห็บปลาเพศเมียจะวางไข่ตามวัสดุแข็ง เมื่อตัวอ่อนฟักออกมา จะว่ายน้ำเพื่อไปเกาะปลาต่อไป
             ชนิดปลาที่เกิดโรค ปลาทอง ปลาคาร์พ ปลาตะเพียนทอง
              การรักษา
                ฟอร์มาลดีไฮด์ เข้มข้น 10 ppm. ใส่ติดต่อกัน 5-7 วัน
                ดิพเทอเร็กซ์ เข้มข้น 0.5 ppm. ใส่ติดต่อกัน 3-5 วัน 



โรคเชื้อรา
         
         สาเหตุ เกิดจากเชื้อราในกลุ่มราน้ำ (Water mold) มีชื่อวิทย์ฯ ว่า (Saprolegnia sp.) 
         ลักษณะ เป็นเส้นใยคล้ายปุยสำลี ปกด. mycelium เป็นเส้นใยแตกแขนงออกไปรอบๆ 
                               ตรงปลายจะขยายโป่งออกเป็นกะเปาะสำหรับสร้างตัวอ่อน (zoospore) จำนวนมาก
                               เมื่อกะเปาะแตกออกตัวอ่อนจะว่านน้ำเพื่อหาที่เกาะ 
        การแพร่ระบาด เมื่อปลาเกิดบาดแผล เชื้อราสามารถเข้าเกาะกินได้ ปลาที่เลี้ยงในบ่อดินมักไม่ค่อยพบเชื้อรา
                                      การฟักไข่ปลาสวยงามที่ไม่ได้รับการผสมจากเชื้อเพศผู้มักเกิดเชื้อราได้ง่าย แล้วแพร่ระบาดออกไปอย่างรวดเร็ว
         ชนิดปลาที่เกิดโรค ปลาสวยงามทุกชนิดสามารถเกิดโรคนี้ได้ถ้าหากมีบาดแผล 
                                          และเกิดได้ดีกับการฟักไข่ปลา (โดยเฉพาะไข่เสีย)
         การรักษาโรค 
             ฟอร์มาลดีไฮด์ เข้มข้น 10 ppm. ใส่ติดต่อกัน 3-5 วัน
             เกลือแกง เข้มข้น 5 ppt.
             ยาเหลือง เข้มข้น 15 ppm. 



Motile Aeromonas Septicemia
                     สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียแกรมลบมีชื่อวิทย์ฯ ว่า (Aeromonas hydrophila) 
                     การแพร่ระบาด ทำอันตรายให้ปลาสวยงามน้ำจืดมากในลักษณะโรคระบาดปลา 
                                         เมื่อเชื้อเข้าสู่ตัวปลาจะฝังตัวอยู่ในอวัยวะภายใน ลักษณะของโรคระบาดนี้ทำให้กล้ามเนื้อปลาตกเลือด
                                         ท้องบวมน้ำ เกล็ดตั้งพอง อวัยวะภายในมีน้ำขุ่นสีเลือด ตับซีดจาง ปลาเสียการทรงตัว อาจมีแผลเน่าตามตัว เนื้อแหว่ง
                     การรักษา ใช้ยาปฏิชีวนะผสมอาหาร 50 มิลิกรัมต่อปลา 1 กก. ให้กินติดต่อกัน 10 วัน 

เทคนิคการรักษาปลาป่วย

          ภาชนะสำหรับรักษาปลาป่วยและการเปลี่ยนถ่ายน้ำ
          การแยกปลาติดเชื้อที่จะรักษา
          การให้อากาศ
          การเตรียมอาหาร
          การสังเกตอาการตอบสนองของปลา


               วิธีปฏิบัติเมื่อพบว่าปลาป่วย
แยกปลาที่ป่วยออกจากตัวอื่นๆ
วินิจฉัยโรคอย่างรอบคอบเพื่อเลือกใช้ยารักษา และไม่ควรจับปลาให้พ้นจากน้ำ
ระมัดระวังในการคำนวณอัตราส่วนในการใช้ยาเพื่อการรักษา
เมื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำควรใส่เกลือแกงไปด้วยทุกครั้งเพื่อลดความเครียดของปลาและช่วยฆ่าเชื้อโรคบางชนิดได้
ละลายตัวยาให้เจือจางในภาชนะอื่นๆ ก่อนใส่ในตู้ปลา 
การใช้ยาปฎิชีวนะ ควรใช้ในช่วงเย็นเพราะมียาบางชนิดทำปฏิกิริยากับแสงสว่าง
ไม่ควรใช้ยาปฎิชีวนะหลายตัวรวมกันเพราะอาจทำให้ยาบางชนิดไปทำลายฤทธิ์ของอีกชนิดได้
อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้กับปลาป่วย ควรแยกต่างหากไม่ใช้ปะปนกับปลาอื่น
เปลี่ยนถ่านน้ำบ่อยๆ หรือทุกวัน วันละ 20-30 เปอร์เซ็นต์ 

วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สายพันธุ์ปลาคาร์ฟ ปลาหลัก โคฮากุ ซันเก้ โชว่า

                                                                  สายพันธุ์ปลาคาร์ฟ ปลาหลัก



โคฮากุ (Kohaku) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีขาวและสีแดง มีชื่อเรียกดังนี้ คือ
อิปปง-ฮิ (Ippon Hi) คือปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงตั้งแต่หัวถึงหาง โดยไม่มีความเว้ามากนัก หรือเรียกว่าโคฮากุหนึ่งตอน

อินะซึมะ (Inazuma) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดง ที่มีรูปร่าง เหมือนสายฟ้า หรือเรียกว่าลายสายฟ้าซึ่งหาได้ยากมาก

นิดัง-ฮิ (Nidan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีอแดงเป็นสองตอน หรือเรียกว่าโคฮากุสองตอน

ซันดัง-ฮิ (Sandan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงเป็นสามตอน หรือเรียกว่าโคฮากุสามตอน

ยนดัง-ฮิ (Yondan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงเป็นสี่ตอน หรือเรียกว่าโคฮากุสี่ตอน

คุจิเบนิ (Kuchibeni) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีสีแดงติดที่ริมปาก คล้ายทาลิปสติก หรือเรียกว่า โดฮากุลิปสติก

มารุเท็น (Maruten) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีสีแดง เป็นวงกลมอยู่ที่หัว และมีลายสีแดงตามลำตัว หรือเรียกว่าโคฮากุมารุเท็น

ดอยท์ซุ-โคฮากุ (Doitsu-Kohaku) คือ โคฮากุที่มีเกล็ดใหญ่ข้างตัว เรียงเป็นแนวทั้งสองข้างหรือไม่มีเกล็ดที่ตัว


ไทโช-ซันโชกุ หรือซันเก้ (Taisho Sanshoku or Sanke) คือ ปลาแฟนซีคาร์พ ที่มีสีขาว สีแดง และดำ มีชื่อเรียกดังนี้คือ


นิดัง-ฮิ (Nidan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงและดำเป็นสองตอน หรือเรียกว่า ไทโช-ซันโชกุสองตอน

ซันดัง-ฮิ (Sandan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงเป็นสามตอน หรือเรียกว่า ไทโช-ซันโชกุสามตอน

ยนดัง-ฮิ (Yondan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงเป็นสี่ตอน หรือเรียกว่า ไทโช-ซันโชกุสี่ตอน

คุจิเบนิ (Kuchibeni) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาว ที่มีสีแดงติดที่ริมปาก คล้ายทาลิปสติก หรือเรียกว่า ไทโชซันโชกุ ลิปติก

มารุเท็น (Maruten) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีสีแดงเป็นวงกลมอยู่ที่หัวและมีลายสีแดงตามลำตัว หรือเรียกว่า ไทโช-ซันโชกุ-มารุเท็น

ดอยท์ซุ-ซันโชกุ (Doitsu-Sanshoku) คือ ไทโช-ซันโชกุที่มีเกล็ดใหญ่ ข้างตัว เรียงเป็นแนว ทั้งสองข้าง หรือไม่มีเกล็ดที่ตัว


โชวา-ซันโชกุ (Showa Sanshoku) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีขาว สีแดง และมีสีดำ เป็นลายอยู่ที่ตัวแต่สีดำจะมากกว่า ไทโช-ซันโชกุ ที่หางและครีบอก ต้องมีแถบสีดำ ที่เรียกว่า โมโตกุโร (Motoguro) ส่วนหัว จะต้องมีลายสีดำพาดผ่าน จนถึงปากและลายคำเข้มชัดเจน

ดอยท์ซุ-โชวา (Doitsu-Showa) คือ โชวา-ซันโชกุ ที่มีเกล็ดใหญ่ข้างตัวเรียงเป็นแนวทั้งสองข้างหรือไม่มีเกล็ดที่ตัว

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทำอย่างไรให้น้ำใส

นักเลี้ยงปลาคาร์ฟแต่ละคนลงทุนไปกับการสร้างบ่อ ซื้อวัสดุกรอง ปั้มน้ำ ปั้มลม และอื่นๆ เป็นจำนวนเงินมากโขอยู่ ค่าใช้จ่ายรายเดือนแต่ละเดือนไม่ใช้น้อย รวมทั้งตั้งอดตั้งใจพิถีพิถันเลือกเฟ้นปลาสวยคุณภาพดีจากฟาร์มมีชื่อเสียงมาเลี้ยง แต่สุดท้ายต้องมาปวดหัวกับปัญหาน้ำในบ่อไม่ใสสักที น้ำเขียว น้ำเหลือง ขุ่น หรือมีตะกอนลอยฟุ้ง ปรับแต่งซื้ออุปกรณ์เสริมมากมายหลายออพชั่น ก็ยังแก้ปัญหาไม่ตก ในบทความนี้ผมจอเสนอมุมมองหรือแนวคิดที่อาจจะช่วยแก้ปัญหาได้ 'น้ำใส' กับ 'น้ำคุณภาพดี' นั้นไม่เหมือนกัน น้ำใส่อาจมีคุณภาพดีมาก ดีน้อย ไปจนถึงไม่ดีได้ทั้งนั้น และในทำนองเดียวกัน น้ำที่มีคุณภาพน้ำดี เลี้ยงปลาโค่ยได้ดี อาจใสมาก ใส่น้อย หรือไม่ใสเลยก้เป็นไปได้ทั้งนั้น ครั้งนี้ผมขออนุญาตชวนคุยเรื่องน้ำใส โดยนิยามว่าเป็นน้ำใสที่ทีคุณภาพดีตามสมควร ไม่ก่อให้เกิดปัญหากับการเลี้ยงปลา ว่ากันตามจริงต้องเริ่มด้วยวิธีที่ศูนย์ คือบ่อที่ดี พื้นบ่อมีสโลบเพียงพอ (ความชัน ไม่น้อยกว่า 5%) ตำแหน่งสะดือบ่อที่เหมาะสม ขนาดท่อสะดือที่ถูกต้อง การวางตำแหน่งจ่ายน้ำและลมที่ไม่ทำให้เกิดจุดอับ มีรอบน้่ำที่ดี เป็นต้น









4 องค์ประกอบบ่อปลาคาร์ฟ

บ่อปลาคาร์ฟที่ดีเริ้มต้นจากการออกแบบที่ดี การออกแบบบ่อปลาคาร์ฟที่ดีนั้นต้องมองจากมุมทั้ง 4ด้าน

1.บ่อปลา บ่อปลาเป็นบ้านของปลา บ้านที่ดีต้องเหมากับการอยู่อาศัยและเจริญเติมโตของปลา

2.บ้าน บ่อปลาต้องเป็นองค์ประกอบที่เข้ากับบ้านและสวนสวยๆ ดูกลมกลืนซึ้งกันและกัน

3.ระบบกรอง หัวใจของบ่อเลี้ยงปลาที่ดูแลคุณภาพของน้ำให้ดี แต่ต้องไม่ทำให้คนเลี้ยงเหนื่อยยากลำบากในการดูแล

4.ค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ และแรงงานที่่ต้องจ่ายทุกวันหรือทุกเดือน เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามในขั้นต้นของการออกแบบการเตรียมการหรือวางแผนที่ดีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน













วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

งานประมูล Dainichi

ตามหัวข้อเลยครับ

เมื่อราว 2-3 อาทิตย์ก่อน Dainichi จัดงานประมูลครั้งที่ 1

แต่ครั้งนี้ วันที่ 27/11/2013 จะมีการจัด Auction ครั้งที่ 2 ขึ้น

ผมดูปลาตัวจริงบางส่วนจากอาทิตย์ที่แล้วๆ และที่เหลือจากภาพ และได้คุยกับ Shigeru Mano แห่งค่าย Dainichi แล้ว ปลาเที่ยวนี้ มีดีๆและน่าสนใจหลายตัวมาก ปลาล๊อตนี้ จำนวนมาก เป็นหัวปลา ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ คือมากกว่า 55-60 ซม. และมีบางตัวใหญ่กว่า 60 ซม. เลยทีเดียว เป็นปลาเกรดใหญ่พิเศษของไดนิชิ แตกต่างจากการประมูลรอบก่อน

แน่นอนครับ Siamkoi และ ทีม 2 Niigata Playboy ได้สืบเสาะข้อมูลปลาตัวพิเศษ แบบหลังไมค์กับทีมงานไดนิชิมาบ้างแล้ว อีกทั้งการสอดแนมเป็นเวลา 2 เดือนเศษๆ ทำให้เราเห็นว่ามีปลาหลายตัวที่น่าสนใจ โดยไม่ได้เพียงพิจารนาจากภาพถ่ายในเว็บไดนิชิเท่านั้นครับ